ลุยเดี่ยวก็
ทรงพลัง แท็กทีมยิ่งทรงพลังกว่า

Mac, iPhone, iPad และ Apple Watch ต่างก็มีความน่าทึ่งในตัวอยู่แล้ว

และจะยิ่งน่าทึ่งขึ้นไปอีกเมื่อใช้งานร่วมกัน ซึ่งก็ต้องยกความดีความชอบให้

คุณสมบัติความต่อเนื่องที่ช่วยให้อุปกรณ์ของคุณทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
ด้วยการปลดล็อคโลกแห่งคุณสมบัติอันทรงพลัง ไม่ว่าจะเริ่มเขียนอีเมลบน Mac แล้วไป
เขียนต่อให้เสร็จบน iPad ถ่ายรูปบน iPhone แล้วดูรูปนั้นปรากฏบน Mac หรือโทรออก
ได้โดยที่ไม่ต้องหยิบ iPhone ขึ้นมา¹ นี่แหละคือความมหัศจรรย์ของความต่อเนื่อง

โทรศัพท์และข้อความต่อติดกันได้
ตลอด จาก Mac ของคุณเลย

ผลิตภัณฑ์ Apple: MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว, iPad Pro รุ่น 13 นิ้ว และ iPhone 16 Plus แสดงการสนทนาใน iMessage ที่เหมือนกันบนแต่ละหน้าจอ

ข้อความ iMessage และ SMS จาก iPhone จะแสดงขึ้นบน Mac, iPad และ Apple Watch ของคุณด้วย² ทีนี้ คุณก็รับและตอบกลับข้อความได้จากทุกอุปกรณ์ของคุณ และแอปโทรศัพท์ยังให้คุณโทรออกหรือรับสายจาก Mac หรือ iPad ได้เลย คุณจึงไม่พลาดสักสาย แม้ iPhone จะอยู่ลึกเข้าไปในกระเป๋าเป้³

Handoffเริ่มจากตรงนี้ จบที่ตรงนั้น

iPhone 16 Plus, MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว, แอปเมลที่เปิดอยู่, อีเมลร่างฉบับเดียวกันแสดงอยู่บนทั้งสองหน้าจอ

ถ้าคุณอยากจะเริ่มเขียนอีเมลบน iPhone แล้วไปเขียนต่อให้เสร็จบน Mac หรือเริ่มเขียนรายงานบน iMac แต่อยากจะเขียนต่อบน iPad ระหว่างเดินทางไปประชุม ทั้งหมดนี้เป็นไปได้อย่างราบรื่นไม่มีสะดุดด้วย Handoff เพราะเมื่อไหร่ที่ Mac และ iPhone หรือ iPad ของคุณอยู่ใกล้กัน คุณก็สามารถส่งต่อสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่จากอุปกรณ์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งได้โดยอัตโนมัติ⁴ ไอคอนที่แสดงแอปสุดท้ายที่คุณใช้งานจะปรากฏบนอุปกรณ์เครื่องที่สอง ไม่ว่าจะเป็นใน Dock บน Mac หรือ iPad หรือในแถบสลับแอปบน iPhone แค่คลิกหรือแตะ
ก็ทำต่อจากที่ค้างไว้ได้เลยโดยไม่ต้องค้นหาไฟล์นั้นๆ คุณสมบัติ Handoff นั้นใช้งานได้กับแอปเมล, Safari, โน้ต, Pages, Numbers, Keynote, แผนที่, ข้อความ, เตือนความจำ, ปฏิทิน และรายชื่อ นอกจากนี้นักพัฒนาแอปยังสามารถเพิ่ม Handoff ลงในแอปของตนเองได้ง่ายๆ อีกด้วย

คลิปบอร์ดกลางคัดลอกจากอุปกรณ์หนึ่ง แล้ววางบนอีกอุปกรณ์หนึ่ง

iPhone 16 Plus ที่มีข้อความไฮไลท์อยู่ในแอปโน้ต, MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ที่มีสไลด์ Keynote เปิดอยู่โดยมีข้อความจากแอปโน้ตปรากฏอยู่บนสไลด์

คัดลอกรูปภาพ วิดีโอ หรือข้อความจากแอปบน iPhone หรือ iPad ของคุณ แล้วนำไปวางบนแอปอื่นบน Mac ที่อยู่ใกล้ๆ หรือจะทำจาก Mac ไปยัง iPhone หรือ iPad ก็ได้ โดยไม่ต้องมีขั้นตอนเพิ่มเติม แค่คัดลอกแล้วก็วางตามปกติได้เลย อย่างเช่นถ้าเจอสูตรอาหารโดนๆ ขณะท่องเว็บบน Mac ก็วางรายการวัตถุดิบลงในลิสต์ซื้อของบน iPhone หรือ iPad ได้เลย หรือจะคัดลอกและวางไฟล์ทั้งไฟล์ระหว่าง Mac สองเครื่องก็ยังได้

กล้องต่อเนื่องสแกนหรือถ่ายรูปไปยัง Mac ของคุณได้เลย

iPhone 16 Plus ที่มีแอปกล้องเปิดอยู่และกำลังจัดเฟรมภาพหม้อเซรามิก, MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ที่มีแอปเมลที่เปิดอยู่ และกำลังร่างอีเมลพร้อมรูปที่ถ่ายจาก iPhone

คุณสมบัติกล้องต่อเนื่องช่วยให้คุณถ่ายรูปด้วย iPhone แล้วทำให้รูปนั้นไปอยู่ในอีเมลบน Mac ได้ทันที หรือจะสแกนใบเสร็จด้วย iPhone แล้วเห็นใบเสร็จนั้นปรากฏในแอปข้อความ โดยภาพจะถูกครอบตัด จัดให้ตรง และพร้อมแชร์โดยอัตโนมัติ โดยคุณสมบัติกล้องต่อเนื่องยังใช้งานได้กับแอปมากมาย ซึ่งรวมถึงแอปโน้ต, Pages และ Keynote เรียกได้ว่านี่คืออีกหนึ่งวิธีการที่ iPhone และ Mac ร่วมงานกันได้เป๊ะ นอกจากนี้ คุณสมบัติกล้องต่อเนื่องยังปลดล็อคความสามารถใหม่ๆ สำหรับวิดีโอคอลอย่าง FaceTime และ Zoom ซึ่งช่วยให้คุณสามารถแชร์มุมมองด้านบนของพื้นที่ทำงานด้วยคุณสมบัติมุมมองด้านหน้าโต๊ะ และคุณสมบัติจัดให้อยู่ตรงกลางก็ช่วยให้คุณอยู่ในภาพเสมอ หากคุณเคลื่อนไหวไปมาในระหว่างการโทร

การสะท้อนหน้าจอ iPhoneสะท้อนปุ๊บ มหัศจรรย์ปั๊บ

MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว ที่มีแอปเมลเปิดอยู่, หน้าจอ iPhone ที่สะท้อนอยู่บนหน้าจอ MacBook Pro, กิจกรรมสดแสดง Uber ที่กำลังจะมาถึง

การสะท้อนหน้าจอ iPhone ให้คุณดูและใช้งาน iPhone ได้เลยจากบน Mac⁵ ทีนี้ ถึงแม้ว่าโทรศัพท์จะชาร์จอยู่อีกฝั่งของห้อง คุณก็ยังเข้าถึงแอป iPhone ที่ชื่นชอบทั้งหมดได้ หรือจะลากและวางวิดีโอจากแอปรูปภาพบน iPhone มาที่เดสก์ท็อป Mac ก็ได้ และกิจกรรมสดจาก iPhone จะปรากฏบน Mac เช่นกัน ทีนี้ ถ้ามีเหตุการณ์สำคัญๆ เกิดขึ้น คุณก็ติดตามความคืบหน้าได้ตลอด
โดยไม่ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

AirDropการแชร์ไฟล์
ไม่เคยง่ายขนาดนี้มาก่อน

iPhone 16 Plus ที่มีแอปรูปภาพเปิดอยู่, MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว ที่มีสไลด์ Keynote เปิดอยู่ โดยมีรูปภาพเดียวกันกับที่อยู่บน iPhone ปรากฏบนสไลด์

AirDrop ช่วยให้การแชร์ไฟล์ระหว่าง Mac, iPhone และ iPad เป็นเรื่องง่าย เพียงแค่คลิกไม่กี่ครั้งบน Mac คุณก็เลือกไฟล์จากโฟลเดอร์ไหนก็ได้ แล้วใช้ AirDrop เพื่อส่งไฟล์จากอุปกรณ์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งได้เลย และยังสามารถทำงานได้ แม้จะไม่มีเครือข่าย Wi‑Fi ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการแชร์เอกสารกับเพื่อนร่วมงานที่อยู่ห้องข้างๆ หรือส่งงานนำเสนอให้ลูกค้าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม เพียงใช้ AirDrop เพื่อส่งไฟล์จากเมนูแชร์ในแอป หรือจาก Finder แล้วผู้รับก็จะได้รับการแจ้งเตือนที่พวกเขาสามารถคลิกหรือแตะเพื่อดาวน์โหลดไฟล์ได้เลย

AirPlay ไปยัง Macเอาขึ้นจอได้เลย

iMac และ iPhone 16 Plus, แอป Keynote ที่เปิดอยู่บน iMac, สไลด์และโน้ตของผู้นำเสนอที่แสดงอยู่บน iPhone

แชร์คอนเทนต์อย่างวิดีโอหรือสไลด์ Keynote จากอุปกรณ์ Apple เครื่องอื่นบนหน้าจอขนาดใหญ่คุณภาพสูงบน Mac ของคุณ ทั้งยังสะท้อนหรือขยายจอภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ด้วย นอกจากนี้ คุณยังใช้ Mac เป็นลำโพง AirPlay เพื่อเพลิดเพลินกับเสียงที่คมชัดดังกระหึ่มทั่วห้องจากอุปกรณ์อีกเครื่องหนึ่งได้อีกด้วย

Sidecar และควบคุมจากอุปกรณ์กลางขยายพื้นที่เดสก์ท็อป
ของคุณ
ด้วย iPad

MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว, iPad Pro รุ่น 13 นิ้ว ที่ใช้ขยายจอภาพของ MacBook และมือที่ใช้ Apple Pencil Pro เพื่อปรับแต่งรูปภาพบน iPad

Sidecar ให้คุณขยายพื้นที่ทำงานโดยใช้ iPad เป็นจอภาพที่สองสำหรับ Mac นั่นหมายความว่าคุณสามารถทำงานในแอปหนึ่งขณะดูข้อมูลอ้างอิงจากอีกแอป หรือดูผืนผ้าใบหลักบนจอภาพหนึ่ง พร้อมกระจายเครื่องมือและจานสีของคุณไปไว้บนอีกจอภาพ นอกจากนี้ คุณยังสะท้อนหน้าจอให้แสดงคอนเทนต์เดียวกันได้ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการแชร์สิ่งที่คุณเห็นให้คนอื่นดูแบบเป๊ะๆ ยิ่งไปกว่านั้น Sidecar ยังช่วยให้การใช้ Apple Pencil ในแอปด้านการสร้างสรรค์ที่คุณชื่นชอบบน Mac ทั้งง่ายดายและแม่นยำด้วย โดยคุณสามารถใช้ Apple Pencil เพื่อสร้างสรรค์ใน Adobe InDesign, ปรับแต่งรูปภาพใน Affinity Photo 2 หรือสร้างโมเดล 3D ใน Maxon ZBrush เพียงแค่ลากคอนเทนต์มาที่ iPad ก็เริ่มใช้งานได้เลย และยังมีแถบด้านข้างที่ใช้งานได้สะดวก ซึ่งจะนำปุ่มสำคัญๆ อย่าง Command, Control และ Shift มาไว้ใกล้ๆ แค่ปลายนิ้ว และด้วยคุณสมบัติควบคุมจากอุปกรณ์กลาง คุณยังสามารถควบคุมทั้ง Mac และ iPad ด้วยคีย์บอร์ดและเมาส์หรือแทร็คแพดเพียงอันเดียว แถมยังเลื่อนเคอร์เซอร์ไปมาระหว่างทั้งสองเครื่องได้อย่างลื่นไหลอีกด้วย

ทำเครื่องหมายและสเก็ตช์ต่อเนื่องวาดด้วย Apple Pencil
หรือไม่ก็นิ้วของคุณ

อุปกรณ์ Apple หลายเครื่องที่แสดงภาพเดียวกันบนแต่ละเครื่อง โดยมีการใช้ Apple Pencil ทำเครื่องหมายบนภาพบน iPad และเครื่องหมายนั้นก็ปรากฏบนอุปกรณ์เครื่องอื่นๆ ด้วย

คุณสมบัติทำเครื่องหมายต่อเนื่องให้คุณเซ็นเอกสาร แก้ไขรายงาน หรือวงรายละเอียดสำคัญในรูปภาพ โดยคุณสามารถใช้ Apple Pencil บน iPad หรือใช้นิ้วบน iPhone แล้วดูการเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์บน Mac ได้เลย และคุณสมบัติสเก็ตช์ต่อเนื่องยังให้คุณสร้างภาพสเก็ตช์บน iPad หรือ iPhone แล้วนำไปวางในเอกสารใดๆ ก็ได้บน Mac อย่างง่ายดาย

ฮอตสปอตด่วนแค่นี้ก็ออนไลน์ได้แล้ว

MacBook Pro รุ่น 14 นิ้ว ที่มีศูนย์ควบคุมเปิดอยู่ในแถบเมนู, การเชื่อมต่อฮอตสปอตส่วนบุคคลแสดงข้อความว่า: iPhone ของ Eric, iPhone 16 พร้อมไฟแสดงสถานะฮอตสปอตส่วนบุคคลสีเขียวที่มุมซ้ายบนของหน้าจอ

ไม่มี Wi‑Fi ก็ไม่มีปัญหา ฮอตสปอตด่วนช่วยให้ Mac เปิดใช้งานฮอตสปอตส่วนบุคคลบน iPhone ได้จากระยะไกล เมื่ออุปกรณ์ทั้งสองอยู่ใกล้กัน⁶ เพียงแค่เลือก iPhone ของคุณจากเมนู Wi‑Fi บน Mac คุณก็ออนไลน์ได้ในไม่กี่วินาที โดยที่ไม่ต้องหยิบ iPhone ออกจากกระเป๋าเสื้อหรือ
กระเป๋าเป้เลยด้วยซ้ำ เมื่อเชื่อมต่อกับฮอตสปอตส่วนบุคคล Mac ของคุณจะแสดงความแรงของสัญญาณและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ของ iPhone ที่ด้านบนสุดของเมนู Wi‑Fi หลังจากที่คุณท่องเว็บเสร็จ ฮอตสปอตก็จะปิดทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ และพอถึงครั้งต่อไปที่คุณต้องการออนไลน์แต่ไม่มี Wi‑Fi เครื่อง Mac ก็จะถามคุณว่าต้องการใช้ฮอตสปอตอีกครั้งหรือไม่ แค่คลิกตกลง ก็ออนไลน์ได้เลย

ตั้งค่า Mac ด้วย iPhoneวิธีที่ง่ายที่สุดในการตั้งค่าและเริ่มต้นใช้งาน

MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว และ iPhone 16 Plus, macOS กำลังติดตั้งบน MacBook, iPhone แสดงข้อความแจ้งเตือนให้ตั้งค่า

ถ้าคุณมี iPhone อยู่แล้ว การตั้งค่า Mac ก็เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว แค่นำ iPhone มาไว้ใกล้ๆ Mac ผู้ช่วยตั้งค่าก็จะลงชื่อเข้าใช้เครือข่าย Wi‑Fi และบัญชี Apple ของคุณให้เอง พร้อมกับโอนย้ายไฟล์ รูปภาพ ข้อความ รหัสผ่าน และอื่นๆ จาก iCloud มาไว้ใน Mac เครื่องใหม่ของคุณ แต่ถ้าไม่มี iPhone ก็ไม่มีปัญหา เพราะผู้ช่วยการโยกย้ายจะช่วยให้การตั้งค่า Mac เครื่องใหม่เป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายดาย แม้ว่าคุณจะย้ายมาจาก Windows ก็ตาม